adsbygoogle

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

ก๋วยเตี๋ยวเรือ ดราม่าในสังคมล่าสุด




(30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดราม่าในสังคมล่าสุด หลังในโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพปริมาณอาหารของก๋วยเตี๋ยวเรือ "ป๋ายักษ์" ร้านดัง ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่พบว่ามีปริมาณที่น้อยเกินกว่าที่จะยอมรับได้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา
ทางด้าน "ป๋ายักษ์" เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือดังกล่าว ที่ปรากฏว่ามีสื่อมวลชนจำนวนมากเดินทางไปสอบถามข้อเท็จจจริงในกรณีนี้ ยืนยันว่าไม่เอาเปรียบผู้บริโภคตามที่กล่าวหา พร้อมกับโชว์เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยว ชามละ 12 บาท ที่ขายอยู่ตามปกติให้ดู และเปรียบเทียบกับภาพที่แชร์ พบได้ว่ามีปริมาณที่แตกต่างกันมา อีกทั้งเจ้าของร้านยังท้าทายอยากพบผู้โพสต์ดังกล่าวด้วย
ล่าสุดผู้ใช้ทวิตเตอร์คุณ @Puthiput ที่แสดงตัวว่าเป็นผู้ที่โพสต์ภาพก๋วยเตี๋ยวเรือดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงทางโซเซียลอย่างตรงไปตรงมา หลังจากที่เกิดกระแสต่างๆ ตามมาจากประเด็นนี้ โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ภาพที่แชร์ออกไปเป็นปริมาณเมนู "เกาเหลา" พร้อมกับท้าทายเจ้าของร้านกลับว่า "กล้าเปิดกล้องวงจรปิด ตอนเวลาบ่ายโมง วันที่ 26 กันยายน 2559 พิสูจน์ดูหรือไม่?"
นอกจากนี้ หนุ่มคนดังกล่าวยังได้ชี้แจงด้วยว่า วันดังกล่าวได้สั่งก๋วยเตี๋ยวเป็นเกาเหลา 5 ชาม เส้นเล็ก 4 ชาม รวมเป็น 9 ชาม สำหรับทานกัน 2 คน มีเครื่องเคียงเป็นกากหมู 2 ชาม เกี๊ยวกรอบทอด 1 ชม ภาพที่เห็นเป็นเกาเหลา 2 ชาม ยังไม่ได้รับทานก่อน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูได้ ตนไปทานกับคุณแม่เวลา 13.30 - 14.30 น. วันที่ 26 กันยายน 2559 นั่งตรงโต๊ะตรงกลางร้านห้องที่ 1 สวมเสื้อสีน้ำเงิน
"ผมไม่ได้บอกว่าชามละ 15 บาท มีผู้แสดงความคิดเห็นและคำนวณราคา 216 บาท แล้วแจกแจงรายละเอียดไปเอง และไม่ได้ระบุชื่อร้านแต่อย่างใด เหตุที่ผมถ่ายรูปอาหาร เพราะปริมาณมันได้แค่นั้นจริงๆ เลยส่งให้เพื่อนดูทางไลน์ ก๋วยเตี๋ยวที่เพื่อนชอบทานบ่อยๆ มันได้ปริมาณเท่านี้หรือ จากนั้นจึงทวีตออกไป เจตนาเนื้อหาไม่ได้ร้องเรียนใดๆ ทั้งสิน"
"มีสำนักข่าวหนึ่ง ติดต่อหาผมเพื่อขอสัมภาษณ์ 3 ท่าน ผมแสดงความรับผิดชอบกับเนื้อหาที่โพสต์ลงไป เลยตอบตกลงและให้เบอร์โทรกลับ เนื้อหาที่พูดคุยนั้นเหมือนที่ชี้แจงข้างต้นมา นักข่าวถามผมว่า ทำไมไม่โวยวายหรือร้องเรียนตรงนั้น ผมก็ตอบว่า ผมเข้าใจว่าสิ่งนี้คือเรื่องปกติ การทานอาหารประเภทนี้ไม่มีใครสั่งชามเดียว
ผมย้ำว่าผมไม่ได้รับทานมานานมากแล้ว ผมไม่ทราบว่าสิ่งที่ผมได้คือปริมาณที่แท้จริงหรือเกิดความผิดพลาดกันแน่ แต่การนำเสนอของรายการข่าวนั้น กลายเป็นว่าผมไปกลั่นแกล้งผู้ประกอบการ นำเสนอข่าวบิดเบือนไปจากการสัมภาษณ์ของผม หนำซ้ำยังสัมภาษณ์ให้ผู้ประกอบการข่มขู่ผมกลับมา ให้คนติดตามข่าววิจารณ์ผมในแง่ลบ ผมควรน้อมรับกับสิ่งนี้ใช่ไหม"
ทั้งนี้ ชายหนุ่มคนดังกล่าวยังรู้สึกผิดหวังกับสื่อสำนักข่าวหนึ่งที่ค่อนข้างบิดเบือนเนื้อหาที่ให้สัมภาษณ์ไป ทำให้ตัดสินใจไม่ให้ความร่วมมือในการให้ข่าวใดๆ อีก พร้อมกับยืนยันอีกครั้งว่า สิ่งที่โพสต์ลงไปไม่ใช่เป็นการเรียกร้องปัญหาค่าครองชีพ ก็เพียงแค่ถ่ายรูปอาหารและเห็นว่าปริมาณมันน้อยกว่าที่เคยทานมาในอดีตเท่านั้นเอง

รูพญานาค



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 ก.ย.) ได้เดินทางไปที่ป่าสวนยาง ท้ายหมู่บ้านหยวก หมู่ 17 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี หลังทราบว่ามีชาวบ้านแห่ไปกราบไหว้ "" เมื่อเดินทางถึงพบมีเต็นท์ผ้าใบกลางอยู่กลางถนนบ้านหยวก-บ้านเทพประทาน
ภายในเต็นท์พบรูขนาดกว้างเท่าผ่ามือ ลึกประมาณ 2 ฟุต มีชาวบ้านกว่า 500 คน นำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ ตั้งวางต้นเงินทำบุญ พร้อมกับตั้งร้านขายอาหารและน้ำดื่ม และดอกไม้ธูปเทียน โดยมีพ่อค้าแม่ค้านำลอตเตอรี่มาวางขาย ซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็น "รูพญานาค"
นายอำไพ สวนอาด ผู้ใหญ่บ้านบ้านหยวก หมู่ 17 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อบ่ายวันที่ 26 ก.ย. มีนายสุนทร กองคำ อายุ 58 ปี ชาวบ้านโนนสูง หมู่ 15 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ได้ขี่รถจยย.ผ่านถนนบริเวณดังกล่าวไปสวนยาง ซึ่งเป็นถนนลูกรัง และพบกับรูดังกล่าวอยู่บนถนน จึงได้มาบอกชาวบ้านและพระภิกษุ ว่ามีรูเกิดอยู่บนถนน ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน
ชาวบ้านจึงได้มาดู และมี "จ้ำ" หรือคนทรง มานั่งก็บอกว่าเป็น "รูพญานาค" มาแสดงอภินิหารให้ชาวบ้านเห็น ชาวบ้านที่ทราบข่าวจึงแห่มากราบไหว้ และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นความเชื่อของคนอีสาน จึงได้จัดเต็นท์และนำเจ้าหน้าที่มารักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านที่เดินทางมากราบไหว้ และทำบุญด้วย เงินที่ชาวบ้านทำบุญก็จะนำไปถวายวัดในหมู่บ้าน
ด้าน นายวัชพล ปรุณกรณ์ อายุ 41 ปี สาวประเภทสอง เล่าว่า วันที่ 26 ก.ย. มีหมอลำคณะรุ่งทิวาอำนวยศิลป์ เดินทางมาแสดงหมอลำในตอนกลางคืนที่หมู่บ้าน ต่อมามีชาวบ้านมาบอกว่าพบ "รูพญานาค" ตนจึงได้ขี่รถจยย.มาดู
และได้มีหมอลำผู้ชายอายุประมาณ 20 ปี ตามมาด้วย เมื่อมาถึงหมอลำผู้ชายได้มีอาการแปลกๆ ลงจากรถแล้วรีบนั่งลงใกล้กับหลุมพร้อมกับเอามือจับทีปากหลุม จากนั้นเสียงพูดก็เปลี่ยนไป จากเสียงคนหนุ่มเปลี่ยนเป็นเสียงคนแก่
เมื่อรู้ว่ามีการเข้าทรง ตนจึงถามว่า เป็นใครมาจากไหน ซึ่งร่างทรงหมอลำหนุ่ม ได้พูดเสียงคนแก่ว่าเป็นพญานาค "ปู่ศรีสุทโธ" มาจากคำชะโนด เพื่อมาเยี่ยมบริวาร ซึ่งเคยมาแล้ว 1 ครั้ง แต่มาปรากฏตัวที่บริเวณใกล้ๆ นี้แต่เป็นโพนปลวก จึงไม่มีใครสนใจ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ได้มาปรากฏให้คนเห็น
ตนจึงได้ถามว่าจะมาเยี่ยมบริวารกี่วัน ซึ่งปู่ศรีสุทโธ บอกว่าจะมา 7 วัน ตนได้ถามอีกว่า ปู่ต้องการอะไร ซึ่งปู่พญานาคศรีสุทโธบอกว่า "ไม่ต้องการอะไร นอกจากขันธ์ 5 ขันธ์ 8 และหมากพลู 9 คำ" ซึ่งตนได้จัดแต่งขันธ์ 5 ขันธ์ 8 และหมากพลู ตามจำนวนถวายปู่พญานาคศรีสุทโธ ต้องการ
นายวัชพล เล่าอีกว่า มีชาวบ้านที่มาเห็นเหตุการณ์ ได้ขอหวย แต่ปู่พญานาคศรีสุทโธ บอกว่าไม่ให้ เพราะเรื่องหวย เป็นเรื่องของโชคของแต่ละคน ไม่สามารถบอกได้ แม้ว่าชาวบ้านจะนำกระดาษและดินสอมาให้ปู่เขียน ก็จะปัดออกว่าไม่ให้ และจะมาเยี่ยมบริวารแค่ 7 วัน ก็จะกลับแล้ว ใครมีโชคก็จะถูกหวยเอง
หลังจากนั้นปู่พญานาคศรีสุทโธ ก็ได้ออกจากร่างหมอลำหนุ่ม หลังจากนั้นชาวบ้านที่ทราบเรื่อง ต่างก็แห่หลังไหลมาดูและกราบไหว้ขอให้โชคดีถูกหวย และยังมีร่างทรงมาเข้าทรงอีก 3 ราย และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็น "รูพญานาค"
ส่วนชาวบ้านที่มากราบไหว้รูพญานาค บอกว่า พึ่งทราบข่าวได้ 1 วัน จึงเดินทางมาดู โดยส่วนตัวเชื่อเรื่องพญานาคอยู่แล้ว ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน หากพญานาคมาปรากฏหรือแสดงอภินิหาร ถือว่าเป็นบุญที่ได้พบเห็น พญานาคปู่ศรีสุทโธ อาศัยอยู่ป่าคำชะโนด จ.อุดรธานี จะไปเยี่ยมบริวารที่ไหนก็ได้ โดยบ้านหยวกเป็นหมู่บ้านที่ถูกหวยบ่อยมาก และงวดที่แล้วก็ถูก 50 กันแบบยกหมู่บ้าน งวดนี้มีรูพญานาคมาปรากฏให้เห็น ถือว่าคงจะถูกหวยกันยกหมู่บ้านอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี มีเขตติดต่อกับ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งอยู่ใกล้แม่น้ำโขง จึงทำให้ชาวบ้านหรือชาวอีสานเชื่อในเรื่องพญานาค อีกทั้งใกล้กับวันออกพรรษา เมื่อรู้ข่าวจึงมีชาวบ้านมากราบไหว้ โดยเฉพาะคอหวย เมื่อมากราบไหว้รูพญานาคเสร็จ บางคนมองเห็นเลขต่างๆ และได้เขียนใส่กระดาษติดไว้ที่เต็นท์มีเลข 747 66 54 ซึ่งต่างไปซื้อหวยในวันที่ 1 ส.ค.นี้

 http://news.sanook.com/2075642/

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

ร้านเสริมสวยในตำนาน

บุกตรวจร้านเสริมสวยในตำนาน เจ้ก้อยยกมือไหว้-หลั่งน้ำตา




บุกตรวจร้านเสริมสวยในตำนาน เจ้ก้อยยกมือไหว้-หลั่งน้ำตา

จากกรณีแสข่าวโด่งดังในโซเชียลฯ มีการแชร์ภาพและข้อความจากเฟซบุ๊ก เตือนภัยแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่เรียกเก็บค่าบริการเสริมสวยในราคามหาโหด หากลูกค้าไม่จ่ายเงินก็จะล็อกประตูร้านพร้อมข่มขู่ ซึ่งมีลูกค้าบางรายอัดคลิปวีดีโอแฉใน กลุ่มพัทยา(pattaya) จนที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในขณะนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องวินจยย.แฉเหยื่อเพียบ ร้านเสริมสวยในตำนานราคาโหด
ล่าสุด (27 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายธรินทร์ นวลฉวี เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ร่วมกับ สคบ.จังหวัดชลบุรี สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชลบุรี เมืองพัทยา และตำรวจ สภ.บางละมุง รุดไปตรวจสอบ ร้านเสริมสวยดังกล่าว ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงปากซอยเนินพลับหวาน (ซอยสุขุมวิทพัทยา53) ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคจำนวนมาก ถึงพฤติกรรมการเรียกราคาค่าบริการเสริมสวยแพงเกินกว่าปกติ
เมื่อไปถึงพบว่าร้านดังกล่าวเปิดให้บริการตามปกติ และมีลูกค้ากำลังใช้บริการอยู่ โดยมี นางกานดา หรือ เจ้ก้อย อายุ 50 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของกิจการ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ส่วนป้ายราคาค่าบริการมีการเขียนติดประกาศไว้ แต่ไม่ชัดเจนมากนัก ลักษณะมีการจำแนกค่าบริการเป็นขั้นตอนไม่ได้รวมกันเป็นเซ็ต
และราคาค่าบริการแต่ละขั้นตอนก็ไม่แน่นอนเช่นกัน อาทิ ตัดผมชาย 80-250 บาท ,ตัดซอย 250-400 บาท ,สระไดร์หนีบ 120- 250 บาท ,ยืดผม 1,000 - 1,500 บาท และอบไอน้ำ 500 - 1000 บาท เป็นต้น อีกทั้งในใบประกาศราคายังระบุข้อความเพิ่มอีกว่า "ราคาปรับเปลี่ยนตามสภาพผม ,ก่อน 9 โมงเช้า และหลัง 3 ทุ่ม ชาร์จราคา 30 %" ซึ่งสร้างความงุนงงแก่เจ้าหน้าที่ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
จากการสอบถาม นางกานดา ให้การว่า ตนเองเปิดบริการร้านเสริมสวยมากว่า 20 ปีแล้ว ในกรณีที่เป็นข่าวเรื่องราคาแพงเกินจริง เนื่องจากตนคิดค่าบริการแยกเป็นขั้นตอนทำให้มีราคาค่าบริการสูง ซึ่งลูกค้าบางรายไม่เข้าใจก็ไปโพสต์ด่าประจานตน ส่วนเรื่องที่มีการกักขังลูกค้าตนเองยอมรับว่ามีการยืนบังไม่ให้ลูกค้าออกจากร้านบ้าง แต่ไม่เคยถึงขั้นล็อกประตูร้าน เนื่องจากลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงิน
ด้าน นายธรินทร์ นวลฉวี เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี จึงว่ากล่าวตักเตือนถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ นางกานดา หรือ เจ้ก้อย เจ้าของกิจการ แก้ไขประกาศราคาค่าบริการให้มีความชัดเจนมากที่สุด
และดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบกิจการต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นเมืองพัทยา ตาม พรบ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ภายใน 7 วัน หากไม่มีการแก้ไขหรือดำเนินการใดๆ จะทำการเปรียบเทียบปรับในราคาไม่เกิน 10,000 บาท และสั่งปิดการชั่วคราวจนกว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงต่อไป ซึ่งนางกานดา ก็ได้ยกมือไหว้ และหลั่งน้ำตา พร้อมรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก

ที่มา http://news.sanook.com/2074166/

ความลับของ SEO


ความลับของ SEO ที่ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้


เรื่อง : ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช
         ผู้เชี่ยวชาญการตลาดดิจิตอล



    สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ทำโฆษณาออนไลน์อย่าง Google AdWords อาจจะเกิดคำถามในใจว่า ก็ในเมื่อต้องซื้อโฆษณาที่ทำให้ธุรกิจปรากฏในหน้าผลลัพธ์การค้นหาในตำแหน่งที่ดีอยู่แล้ว ทำไมยังต้องทำ SEO (Search Engine Optimization) ที่หมายถึงการทำให้ธุรกิจไปปรากฏในผลลัพธ์การค้นโดยธรรมชาติอีกด้วย คำตอบก็คือ นอกจากจะเป็นการย้ำแบรนด์ให้เป็นที่จดจำแล้ว (เนื่องจากผู้ใช้จะมีโอกาสเห็นแบรนด์ของเราอย่างน้อย 2 ครั้ง) ยังเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะคลิกสูงอีกด้วย โดยเฉพาะลิงก์ที่ปรากฏในอันดับธรรมชาติ เท่ากับช่วยประหยัดค่าโฆษณาได้อีกทางหนึ่ง

    อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่ทำ SEO กันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่เทคนิคการปรับแต่งคอนเทนต์ ตลอดจนโค้ด HTML ในขณะที่ความจริงแล้ว หัวใจของการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้มีแค่การปรับแต่งเว็บไซต์ภายใน (On Page) อย่างเช่น การใช้ Keywords ตลอดจนการให้ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และการปรับแต่งภายนอก (Off-Page) อย่างเช่น การสร้างลิงก์คุณภาพ (Quality Links) ให้ชี้มายังเว็บไซต์เราเท่านั้น แต่ประเด็นที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ประสบการณ์ในการใช้งานเว็บไซต์ของลูกค้า เพราะเป็นตัวตัดสินคุณภาพเว็บไซต์ในระดับ First Impression นั่นเอง ซึ่งประสบการณ์ที่ดีของเว็บไซต์นั้นประกอบด้วย



แสดงผลหน้าเว็บได้เร็วสุดๆ

    ผลวิจัยของเว็บไซต์ Akamai และ Gomez.com ระบุตรงกันว่า ผู้บริโภคคาดหวังให้เว็บไซต์สามารถโหลด และแสดงผลได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่การโหลดหน้าเว็บช้าจะส่งผลกระทบให้อัตราการออกจากเว็บไซต์ (Bounce Rate คือการที่ผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ไม่นานก็ออกเลย หรือรอโหลดไม่ไหวจึงต้องออกไปเข้าเว็บอื่นแทน) ก็จะเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน การโหลดหน้าเว็บที่ช้ายังส่งผลให้การตัดสินใจซื้อสินค้าลดลงอีกด้วย

    ซึ่งประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ใช้เวลากับเว็บไซต์ในช่วงเวลาสั้นๆ แค่ปัจจัยข้อนี้ข้อเดียว การทำ SEO ที่เหลือก็หมดความหมายแล้ว และถึงแม้เว็บไซต์จะติดอันดับการค้น แต่หากภายหลัง Google พบว่า ผู้ใช้เข้าไปแล้วก็ออกจากเว็บไซต์คุณอย่างรวดเร็ว (ความหมายเท่ากับ ผิดหวัง) เว็บไซต์ของคุณก็สอบตกในที่สุด

    สำหรับตัวอย่างเว็บไซต์ที่โหลดเร็วจนน่าตกใจ อยากให้คุณผู้อ่านลองเข้าไปที่เว็บไซต์ smashingmagazine.com ซึ่งจะพบว่า มันสามารถโหลด และแสดงผลได้ภายในไม่ถึง 2 วินาที!!! และหากใช้เครื่องมือทดสอบความเร็วอย่าง Page Speed Insight ของ Google คะแนนของความเร็วที่เว็บไซต์นี้ทำได้คือ 100 เต็มทั้งบนมือถือ และเดสก์ทอป ลองทดสอบกับเว็บไซต์ของคุณดูสิครับว่าได้คะแนนสักเท่าไร? นอกจากนี้ ยังมีสถิติที่น่าตกใจก็คือ ปัจจุบันผู้บริโภคมีสมาธิจดจ่อรอดูสิ่งที่สนใจได้แค่ 8 วินาที (ปลาทอง 9 วินาที) Google ถึงกับกำหนดให้การโหลดหน้าเว็บบนมือถือที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ควรจะไม่เกิน 3 วินาที



ต้องดูดี และโหลดไวบนมือถือด้วย

    จากสถิติการใช้มือถือท่องเว็บที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอเมริกาที่ 80 เปอร์เซ็นต์ ท่องเว็บบนโทรศัพท์มือถือ การออกแบบเว็บไซต์โดยเริ่มต้นจากมือถือไปสู่เดสก์ทอป กำลังเป็นแนวทางของนักออกแบบหลายๆ คน โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่ตอบสนองการแสดงผลบนหน้าจอทุกขนาดที่เรียกว่า Responsive ตั้งแต่มือถือยันเดสก์ทอป

    เว็บไซต์อย่าง Cyber-Duck เปลี่ยนใจจากใช้ CMS (Content Management System) ไปเป็นการเขียนหน้าเว็บขึ้นใหม่ สามารถเร่งความเร็วให้เว็บไซต์บนมือถือเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 3,900 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนอกจากโค้ดใหม่แล้วยังมีการลดขนาดไฟล์ภาพลง 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้โหลดบนมือถือได้เร็วขึ้นอีกด้วย

    โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ Cyber-Duck มีแทรฟฟิกจากมือถือเพิ่มขึ้น 82 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาอยู่กับเว็บไซต์นานขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ แถมอาการออกจากหน้าเว็บ (Bounce Rate) ที่หน้าแรกลดลงจากเดิมถึง 4,000 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเว็บไซต์ของคุณเป็นมิตรกับหน้าจอขนาดต่างๆ อีกทั้งให้ประสบการณ์ในการใช้งานดีมาก (ดูดี และโหลดไว) ซึ่งสอดรับกับวัตถุประสงค์ของ Google อันดับการค้นแบบธรรมชาติของคุณก็จะอยู่ในอันดับต้นๆ ไปด้วย




รีดไขมันบนหน้าโฮมเพจ

    นอกจาก 2 ข้อแรกแล้ว ประสบการณ์ของผู้ใช้ยังรวมถึงคำถามที่ว่า ระหว่างโฮมเพจที่มีเนื้อหาสั้นกับยาว อันไหนดีกว่ากัน กล่าวโดยสรุปคือ อย่าโหมกระหน่ำทุกอย่างลงไปที่หน้าแรก แต่ให้ดูว่า คอนเทนต์ใดที่สำคัญต่อการตัดสินใจ หรือสร้างความพอใจให้กับผู้บริโภคได้มากที่สุด แล้วคัดเลือกคอนเทนต์ที่ไม่จำเป็นต้องแสดงผลไว้หน้าแรกออกไปไว้หน้าอื่นๆ ซึ่งผลจากการที่โหลดเร็ว ผู้ใช้จะยินดีที่จะคลิกไปดูหน้าอื่นๆ ที่สนใจโดยไม่รีรอ

    ประสบการณ์ตรงนี้จะส่งผลให้อัตราการคลิก (Click Through Rate) เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวได้เลยทีเดียว ซึ่งการที่เว็บไซต์โหลดเร็ว จะส่งผลให้ผู้ใช้คลิกดูหน้าเว็บต่างๆ มากขึ้น และ Google ก็จะพิจารณาว่า เว็บไซต์นั้นมีความหมาย หรือมีคุณภาพดีต่อผู้บริโภคและสมควรที่จะได้รับการส่งเสริมจาก Google ด้วยอันดับการค้นที่ดีด้วย



Call To Action (CTA) ออกแบบให้ “คลิก” เยอะ

    การปรับแต่งเว็บไซต์นอกจากความเร็วในการโหลด การแสดงผลบนมือถือ การทำให้หน้าเว็บเบา แล้วแสดงแต่คอนเทนต์ที่จำเป็นก่อน ปัจจัยที่ทำให้ SEO ประสบความสำเร็จยังรวมถึงการปรับแต่งให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Call To Action (การที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บ) อีกด้วย โดยเฉพาะลิงก์ หรือปุ่มบนมือถือ เช่น การเปลี่ยนข้อความให้กระชับ และยิงตรงถึงตัวผู้ใช้ เช่น Start your free trial ให้เปลี่ยนเป็น Start my free trial แค่เปลี่ยน your เป็น my ผลลัพธ์คือ CTR เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

    นอกจากใส่ข้อความยิงตรงนี้แล้ว การใส่คุณค่าบนปุ่ม เช่น Free 30 day-trial หรือ Buy 1 Get 1 Free ยังช่วยเพิ่มอัตราคลิก หรือ CTR ได้เป็นเท่าตัวอีกเช่นกัน นอกจากนี้ ตำแหน่งของปุ่ม CTA บนมือถือที่สามารถมองเห็นได้ทันทีที่โหลดเสร็จ โดยยังมิทันต้องเลื่อนหน้าเว็บขึ้นมาก็เห็นปุ่มแล้ว ผนวกกับเนื้อหาที่โน้มน้าวจนเกิดความต้องการ เมื่ออ่านจบเห็นปุ่ม ผู้ใช้จะสามารถคลิกได้ทันที อำนวยอวยกันขนาดนี้ โอกาสที่ผู้ใช้จะคลิกก็สูงขึ้น และแน่นอนว่า Google จะให้อันดับการค้นโดยธรรมชาติที่ดีกับคุณด้วยอย่างแน่นอน



เก็บตกเพิ่มเติมให้คุณได้ SEO อันดับที่ดี

    สุดท้ายเป็นเรื่องของการนำเสนอบนหน้าเว็บด้วยคอนเทนต์ที่จัดวางให้อ่านง่าย (Readability) ตัวหนังสือไม่เล็กเกินไป เรียบร้อยจนคล้ายกับเอกสาร White Paper จะช่วยเพิ่มยอดวิวได้สูงขึ้นได้ถึงเท่าตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อ SEO อย่างแน่นอน และทั้งหมดคือ ความลับของ SEO ที่หลายคนไม่รู้ หรือมองข้าม

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 http://www.smethailandclub.com/knowledges-view.php?id=1326

ความลับของ SEO

ความลับของ SEO 3 ข้อ รู้แล้วรวย!

SEO (Search Engine Optimize )คือการปรับ เวปไซต์ ให้อยู่ในอันดับ ใน Google ในอันดับแรกๆ ทำให้เมื่อมีคนค้นหาแล้วจะเจอเวปไซต์ เราในหน้าแรกๆ
ข้อดีของ SEO
SEO ช่วยเพิ่มคนเข้าเวปไซต์
ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ใช้ Search engine อย่าง Google ในการค้นหาเวปไซต์ที่พวกเขาสนใจ การมีอันดับที่ดีใน Google ย่อมส่งผลให้คนเข้ามาเวปไซต์อย่างไม่ยากเย็น
SEO ทำให้มีรายได้จากการโฆษณา
ถ้าเวปไซต์เรามี PageRank และจำนวนคนเข้าเวปไซต์ อย่างมากมายไม่ต้องสงสัย เลยว่า จะมีคนสนใจลงโฆษณา กับเราเองโดยไม่ต้องไปหาให้เมื่อย
SEO ช่วยให้เราทำเงินจาก Adsense ได้มากขึ้น
เคยมีคนเปรียบเทียบ การเมืองสมัคร เก่า ว่า พรรค ใหญ่ๆ เอาเสาไฟลงสมัคร ส.ส ก็มีคนเลือก เพราะว่าเขามีฐานเสียงเยอะ
การทำเงินจาก Adsense ก็เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะวางโฆษณายังไง ถ้ามีคนเข้าเวปไซต์ แยะ ก็มีคนตามไปคลิก (เอ จอห์นโยงไปหากันได้ยังๆไง)
ความสำเร็จของการ Seo เวปนั้นไม่ยากเลย
ปัจจุบัน เวปไซต์ของจอห์น ทำอันดับได้ดีในหลาย Keyword ความลับมีไม่มาก

 
 เวปไซต์ที่จะทำอันดับได้ดี หน้าแรกๆ
1.มีคำในอยู่ใน ไตเติ้ลเวป
2 มีคำนั้นอยู่ใน รายละเอียด
3.มีคำนั้นอยู่ใน Url สำคัญมากที่สุด

การทำอับดับได้ดี ต้องมีข้อใด ข้อหนึ่งในนี้ หากมีทั้ง 3 ข้อ คุณจะอยู่หน้าแรกๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
ดูเหมือนการทำ Seo ไม่ยากเลยเลย หากแต่ การปรับเวปไซต์ให้มีทั้ง 3 ข้อนั้น ต้องอาศัยความรู้ด้าน โปรแกรมช่วย หากไม่ต้องการเมื่อยมากนัก
ความลับง่ายๆแค่นี้ก็สามารถทำให้เวปไซต์ขึ้นอันดับได้สวยงาม โดยไม่ต้อง พึ่ง Pagerank แล้ว
ออ รู้แล้วก็ต้องทำด้วยนะ ลืมบอกไปว่ารู้อย่างเดียว ก็ไม่รวย

 http://redtor.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-seo-3-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD-%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A3/

นศ.ปี 1 พ่อโทรลาตาย แต่รุ่นพี่ไม่ให้กลับบ้าน รู้อีกทีพ่อเป็นศพ

นศ.ปี 1 พ่อโทรลาตาย แต่รุ่นพี่ไม่ให้กลับบ้าน รู้อีกทีพ่อเป็นศพ



นศ.ปี 1 พ่อโทรลาตาย แต่รุ่นพี่ไม่ให้กลับบ้าน รู้อีกทีพ่อเป็นศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (26 ก.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตาย จึงไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นไม้ ตั้งอยู่ ม.2 ต.บางจะเกร็ง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พบศพ นายอำนวย อายุ 41 ปี อาชีพขับรถรับจ้างบรรทุกหินบริษัทแห่งหนึ่ง นุ่งกางเกงจีนสีขาว สวมสร้อยคอแสตนเลสห้อยตะกรุด
สภาพศพนั่งพับเพียบผูกคอด้วยเชือกไนล่อนกับขื่อบ้าน สูงประมาณ 3 เมตร ไม่สวมเสื้อ ข้างศพผู้ตายพบเก้าอี้สีชมพู 1 ตัว ภายในห้องเปิดโทรทัศน์และพัดลมทิ้งไว้ บริเวณใกล้กันมีโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และขวดเหล้าขาววางอยู่บนโต๊ะ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง
จากการสอบถาม นางเรณู ซึ่งเป็นพี่สาวผู้ตาย ให้การว่า เมื่อค่ำวานนี้ผู้ตายได้คุยโทรศัพท์กับตน และพูดตัดพ้อน้อยใจภรรยาที่ได้แยกทางกันอยู่ เนื่องจากได้ทะเลาะเบาะแว้งกันก่อนหน้านี้ถึงสาเหตุที่ผู้ตายดื่มสุราเป็นประจำ
นอกจากนี้ ยังบอกด้วยว่าผู้ตายบ่นคิดถึงลูกสาวอายุ 18 ปี ที่ศึกษาอยู่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี และได้พูดลักษณะคล้ายๆ เป็นการอำลาโดยใช้คำว่า "ขอโทษพี่น้องทุกคนและรักทุกคน"
ด้าน น.ส.กาญจนา อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ตาย ให้การด้วยเสียงสั่นเครือจากการร้องไห้ว่า เมื่อคืนก่อนได้พูดคุยโทรศัพท์กับพ่อขณะที่ตนกำลังซ้อมเชียร์อยู่ ซึ่งมีเวลาคุยไม่มากนักและพ่อได้บอกกับตนว่า "พ่อรักลูกมาก" และทิ้งท้ายด้วยคำว่า "ลาก่อน"
ตนไม่สบายใจจะขอกลับบ้าน แต่พี่ๆ ชมรมเชียร์ลีดเดอร์ไม่ให้กลับบ้าน กระทั่งเย็นวันนี้แม่ที่แยกทางจากพ่อไปรับเพื่อกลับบ้าน ก็พบว่าพ่อผูกคอเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายเกิดความเครียดเนื่องจากอยู่คนเดียว ทำให้เกิดอาการซึมเศร้าคิดมาก เป็นเหตุให้ผูกคอตายก็เป็นได้ เจ้าหน้าที่จึงส่งศพให้สถาบันนิติเวช รพ.ราชบุรี ตรวจหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

 http://news.sanook.com/2073682/